ในยุคที่ AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงาน การใช้ AI ให้เต็มศักยภาพไม่ใช่แค่การถาม-ตอบแบบธรรมดาอีกต่อไป การเปลี่ยน ChatGPT ให้เป็น AI ของธุรกิจคุณ ที่คุณสามารถสร้างความฉลาดเฉพาะเรื่อง สร้างให้เค้าเก่งขึ้น จนสามารถทำงานได้จริง วันนี้รวมมาเป็นเทคนิคที่คุณทำตามได้เลย!
หัวข้อในบทเรียนนี้
เทคนิคที่ 1: 1 Chat = 1 AI
ถ้าคุณยังใช้ ChatGPT แค่ถาม-ตอบ เสียใจด้วยครับคุณกำลังพลาดความสามารถที่แท้จริงของ AI
วิธีแก้ไขง่ายๆ ครับ ให้คุณมองใหม่ว่า 1 Chat ของ ChatGPT คือ AI 1 ตัวที่คุณสามารถสร้างให้เค้าฉลาดมากขึ้นได้เรื่อยๆ จนสามารถช่วยงานคุณได้จริง
ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบนี้ครับ...
เวลาคุณพิมพ์ถามใน ChatGPT เค้าก็จะสร้างห้อง Chat ที่คุณสามารถกลับเข้ามาถามสิ่งอื่นๆ ได้ใช่ไหมครับ
เคยสังเกตไหมครับว่า ถ้าเราเคยถามอะไรไป บางทีเค้าจะนำคำตอบเดิมมาตอบเรา และบางทีจะมีเขียนว่า "Memory Updated" สิ่งนี้มันเป็นเพราะ ChatGPT เค้ามีการบันทึกข้อมูลที่คุณเคยใช้ไว้ครับ
คราวนี้ถ้ายิ่งคุณใช้ Chat นี้ถามสิ่งนั้น สิ่งนี้ ใน Chat เดียวกัน เป็นไปได้ครับว่า ChatGPT จะทำการตอบคำถามเราด้วยข้อมูลที่เคยตอบมาแล้ว หรืออาจจะแค่ตอบคำถามได้เหมือนเดิมไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดูฉลาดอะไร
แต่ถ้าคุณใช้ 1 Chat = 1 AI ของคุณ การทำงานของคุณจะเปลี่ยนไป...
ด้วยความสามารถในการบันทึกข้อมูลไว้ใน Chat ของ ChatGPT คุณสามารถทำให้ ChatGPT เรียนรู้เรื่องที่คุณสนใจ และสร้างคำตอบที่เฉพาะเจาะจง ไปในทิศทางที่ต้องการมากขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ
เพียงแค่คุณต้องแยกแต่ละ Chat ให้ครอบคลุมคนละเรื่อง
และเปลี่ยนจากการใช้ ChatGPT ถามตอบ เป็นการสั่งให้สร้างคำตอบที่ต้องการ และให้ข้อมูลที่ ChatGPT ต้องใช้ จากนั้นสั่งให้ปรับคำตอบไปในทิศทางที่ต้องการ
เมื่อคุณทำซ้ำไปเรื่อยๆ คุณจะเปลี่ยน Chat ถามตอบ เป็น 1 Chat = 1 AI ที่มีความรู้เฉพาะ มีทิศทางเฉพาะ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะที่ใช้งานได้จริงๆ
มาดูตัวอย่างการใช้ 1 Chat = 1 AI กัน
ในตัวอย่างจะเป็นการเขียนคอนเทนต์ที่มีข้อมูลตรงใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เทคนิคที่ 2: หลักการ PARTS
คุณเขียนคำสั่งไม่ชัดเจนครับ ChatGPT ก็เลยตอบสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้
ถ้าคุณยังเขียน "คิดคอนเทนต์ให้หน่อย" เป็นคำสั่งของคุณให้กับ ChatGPT เสียใจด้วยครับคุณไม่มีทางใช้ได้อย่างเต็มที่แน่ๆ ครับ
วิธีแก้ง่ายๆ ครับ "ถ้าเราใส่คำถามที่ชัดเจน คำตอบก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น"
และคุณใช้หลักการ "PARTS" ที่ Google สอน เพื่อเขียนคำสั่งให้ครอบคลุมรายละเอียดที่ต้องมีได้ง่ายๆ แบบนี้ครับ
P - Persona เขียนสั่งว่าให้ ChatGPT คิดเหมือนใคร เช่น "ให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำคอนเทนต์"
A - Aim เขียนสั่งว่าให้ ChatGPT ทำอะไรพร้อมรายละเอียด เช่น "ให้คุณคิดคอนเทนต์ในหัวข้อการใช้ ChatGPT เพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ"
R - Recipient เขียนสั่งว่าให้ ChatGPT ทำให้ใคร ให้เค้านำไปใช้อะไรต่อ เช่น "สำหรับเจ้าของธุรกิจ ให้สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรได้ทันที"
T - Theme / Tone เขียนสั่งว่าให้ ChatGPT ใช้นำเสียง รูปแบบการตอบอย่างไร เช่น "เขียนตอบในรูปแบบเข้าถึงง่าย กระชับ"
S - Structure เขียนสั่งว่าให้ ChatGPT เขียนตอบในรูปแบบใด เช่น "เขียนตอบเป็นข้อ พร้อมรายละเอียด"
และนำทุกส่วนมารวมกัน กลายเป็นคำสั่ง "ให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำคอนเทนต์ ให้คุณคิดคอนเทนต์ในหัวข้อการใช้ ChatGPT เพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ สำหรับเจ้าของธุรกิจ ให้สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรได้ทันที เขียนตอบในรูปแบบเข้าถึงง่าย กระชับ เขียนตอบเป็นข้อ พร้อมรายละเอียด"
มาดูผลลัพธ์เปรียบเทียบกับคำสั่ง "คิดคอนเทนต์ให้หน่อย" กัน
เทคนิคที่ 3: การสังเคราะห์ข้อมูล
ถ้าคุณให้ ChatGPT ตอบคำถามแบบลอยๆ ผมเสียใจด้วยจริงๆ คุณจะเจอว่า คำตอบเชื่อไม่ค่อยได้ ตรวจสอบไม่ได้ และบางทีเหมือนตอบได้นะ แต่ใช้ต่อไม่ได้เลย และที่หนักที่สุดคืออาการ Hallucination หรือการหลอนตอบอะไรที่แปลกๆ ที่เป็นอาการที่เจอได้ใน Generative AI
วิธีแก้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนจากให้เค้าคิดคำตอบให้ เป็นการสังเคราะห์ข้อมูล
การสังเคราะห์ข้อมูลเป็นกระบวนการสร้างข้อมูลใหม่ โดยมีพื้นฐานจากการใช้ข้อมูลเดิมที่มีอยู่ เช่น แทนที่ผมจะให้ ChatGPT คิดคอนเทนต์อะไรก็ไม่รู้ให้ผม ผมเปลี่ยนให้ ChatGPT เขียนคอนเทนต์ที่มีองค์ประกอบของ Viral Content ครบถ้วน ด้วย STEPPs Framework
แค่นี้ผมก็นำงานวิจัย, Framework, ความรู้ของอาจารย์ต่างๆ ทั่วโลก มาเป็นหลักการคิดของ ChatGPT และสังเคราะห์มาเป็นข้อมูลของผมได้ เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญมาคิดคำตอบให้เลย
มาดูตัวอย่างการ สังเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบกับคำสั่งธรรมดากัน
"คิดคอนเทนต์การใช้ ChatGPT ในองค์กร"
"คิดคอนเทนต์การใช้ ChatGPT ในองค์กร โดยใช้ STEPPs Framework ให้ครบองค์ประกอบในแต่ละคอนเทนต์"
เทคนิคที่ 4: Prompt Engineering
แค่เขียนคำสั่งไม่พอนะครับสำหรับการใช้ ChatGPT ต้องสั่งวิธีคิดด้วย หรือที่เราเรียกกันว่า Prompt Engineering
ถ้าคุณคิดว่าเขียนคำสั่งให้ ChatGPT แล้วก็จบ ผมเสียใจจริงๆ คุณไม่สามารถใช้เค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอนครับ
เพราะการทำงานของ ChatGPT คือ เค้าจะสร้างข้อมูลให้เรา แต่ใครจะรู้ครับว่าเค้าสร้างให้อย่างไร ถูกหลักการไหม
วิธีแก้ง่ายๆ ครับคือในคำสั่งต้องเขียน "วิธีคิด" หรือศัพท์ทางการเราเรียกว่า Prompt Engineering
เช่นการทำ RAG หรือ Retrieval-Augmented Generation AI หรือแปลเป็นภาษาง่ายๆ คือ การบอกให้ ChatGPT นำข้อมูลที่กำหนดให้มาตอบเท่านั้น ไม่ให้คิดเอง
เช่นการใช้งานเบื้องต้นเลยครับ ผมอยากใช้ ChatGPT ในองค์กร แต่ไม่แน่ใจว่าใช้เชิงพาณิชย์ได้ไหม ลิขสิทธิ์คำตอบจะเป็นของใคร
ในตัวอย่าง ผมจะให้ ChatGPT อ่าน Term of Service ของ ChatGPT แล้วตอบผมในสิ่งที่ผมต้องการรู้
เป็นไงมาดู
ลองใช้แล้วเป็นไง คอมเม้นท์บอกที่โพสหน่อยนะ! กดที่นี่ไปที่โพส
ที่ปรึกษาของคุณในบทเรียนนี้
เจ้าของธุรกิจ ให้ผมช่วย สร้างธุรกิจของคุณให้เท่าทัน Data, AI นะครับ
สนใจเรียนรู้ว่าองค์ของคุณจะใช้ AI ทำให้เติบโตต่ออย่างไร พร้อมใช้ ChatGPT ให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัว
เข้าเรียนในคอร์ส AI Creativity with ChatGPT เพราะ Creativity = Create Value มาใช้ AI Create Value แบบมี Framework ควบคุมให้ประสบความสำเร็จในองค์กรกันเถอะครับ!
ช่วยเราสร้างบทความที่ดีขึ้น
ผ่านการให้ข้อมูล และฟีดแบคเกี่ยวกับบทความนี้! และคอมเม้นท์บอกเราด้วยนะ ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรด้านล่าง!
แนะนำบทเรียนนี้ให้เพื่อนต่อไหม?
5 - แนะนำต่อแล้ว!
4 - คิดถึงเพื่อนที่ได้ใช้ก่อน ส่งให้แน่ๆ
3 - ถ้ามีโอกาส ส่งให้แน่ๆ
2 - ยังไม่แน่ใจ
Comments